ไมเกรน...ไม่ใช่โรคร้าย แต่เป็นอาการป่วยที่เรื้อรัง การรักษาโดยไม่ใช้ยาทำให้โรคทุเลา ย่อมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ มารู้จัก เข้าใจ และรับมือกับไมเกรนอย่างถูกวิธีไม่ว่าจะเป็นเสริมวิตามิน น้ำมันหอมระเหย นวดกดจุด ฝังเข็ม รวมถึงการกินกู้สถานการณ์ไมเกรน วิธีการรับมือกับไมเกรนในช่วงวันนั้นของเดือน มารู้เท่าทันไมเกรนก่อนกำเริบ และรับมือเมื่ออาการกำเริบไปกับ "ไมเกรน รักษาได้โดยไม่ใช้ยา" เล่มนี้กันเถอะ!

หนังสือที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ ‘ไทย-พม่า-ลาวและกัมพูชา’ แบ่งเป็นหัวข้อหลักๆ ได้แก่ สภาพความเป็นจริงในปัจจุบันและความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน, การเริ่มต้นของประวัติศาสตร์, ประเทศกัมพูชา พม่า และไทย สมัยโบราณ, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นับถือพุทธศาสนา (2074-2124), นโยบายที่แตกต่างกันระหว่างกษัตริย์มินดงและพระจอมเกล้าฯ, ผลกระทบของการปกครองแบบอาณานิคม, ทศวรรษระหว่างสงครามและสงครามโลกครั้งที่ 2

ปริศนาเกี่ยวกับเรื่องราวไดโนเสาร์ที่น่าสนใจ -ไดโนเสาร์ มีชีวิตในช่วงใด? -ไดโนเสาร์ มีวิวัฒนาการมาจากสัตว์ชนิดใด -เหตุใด ไดโนเสาร์ จึงสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้? -เกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ในช่วงรอยต่อระหว่างยุคเครตาเซอุส(Cretaceous) และยุคเตร์ฌีอารวี (Tertiary)? -ความหายนะครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อ 65 ล้านปีก่อน เกิดขึ้นอย่างไร จะหวนกลับมาเกิดขึ้นใหม่อีกหรือไม่?

สถาปัตยกรรมถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมาตั้งแต่โบราณ เช่นแสดงถึงอำนาจความยิ่งใหญ่ของผู้ปกครอง ซึ่งผู้มาเยือนต้องรู้สึกยำเกรง สถาปัตยกรรมไม่ได้เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น แต่สามารถสื่อสารความเชื่ออุดมการณ์ต่าง ๆ ให้เห็นเป็นรูปร่าง ตัวอย่างเช่น สถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีแนวคิดชี้นำอุดมการณ์การเมือง อาคารรัฐสภาของบังกลาเทศ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกันชื่อ หลุยส์ คาน โดยใช้แนวคิดความเป็นประชาธิปไตยเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบ เช่น ออกแบบให้ห้องประชุมสภาที่ประชาชนได้เลือกมาเป็นตัวแทนเข้ามาทำงานเป็นส่วนแกนกลางของอาคาร โดยสื่อว่าศูนย์รวมอำนาจคือตัวแทนประชาชน มีแสงแดดจากหลังคาส่อง เพื่อสื่อถึงความโปร่งใสในการปกครอง ห้องประชุมมีช่องเปิดด้านบนซึ่งมีทางเดินล้อมรอบเพื่อให้ประชาชนสามารถมองลงมาเห็นการประชุมได้จากทุกทิศ เพื่อจะสื่อว่าประชาชนสามารถตรวจสอบผู้แทนได้อย่างตรงไปตรงมา และตัวอย่างที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างในการใช้สถาปัตยกรรมเพื่อปลูกฝังอุดมการณ์ทางสังคมนั้น อาจเป็นสถานที่ใกล้ตัวที่ทุกคนคุ้นเคยมาก่อนอย่าง โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย การเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเราทุกคน แต่เราถูกทำให้เชื่อว่าการเมืองไม่เกี่ยวกับเรา ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในสังคมไทย หากไม่สามารถแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ได้ ก็จะมีคนกลุ่มหนึ่งสามารถผูกขาดอำนาจไปได้เรื่อย ๆ โดยทำให้คนเข้าใจว่าการเมืองเป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่มีความรู้มีการศึกษา ส่วนคนที่เหลือก็เรียนหนังสือทำมาหากินไปไม่ต้องไปสนใจการเมือง ถ้าเป็นอย่างนี้บ้านเมืองก็จะยากที่จะพัฒนา (ผศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ,2562) ทุกคนจึงต้องศึกษาและเข้าใจการเมืองการปกครอง ไม่ใช่แค่ปัจจุบันเพียงเท่านั้นแต่ต้องศึกษาตั้งแต่อดีตว่าระบบการเมืองของไทยมีความเป็นมาอย่างไร แต่จะศึกษาอย่างไรให้เข้าใจ เพราะการจะทำความเข้าใจการเมืองเป็นอะไรที่ต้องใช้เวลา ต้องค่อยๆซึมซับและต้องคิด วิเคราะห์ ซึ่งเราขาดพื้นที่ในการศึกษาเรื่องการเมือง ซึ่งการเรียนรู้ผ่านสถาปัตยกรรมและประสบการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น (อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้) อาจไม่เพียงพอต่อความเข้าใจถึงวิวัฒนาการทางการเมืองและการปกครองไทย หากแต่วิทยานิพนธ์นี้มุ่งเน้นให้ผู้ใช้โครงการมีประสบการณ์ที่มากกว่าการเยี่ยมชมสถานที่ ดังนั้นการเรียนรู้แบบอยู่อาศัยจึงเป็นความท้าทายอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับวิทยานิพนธ์นี้ ดังนั้นวิทยานิพนธ์นี้ จึงนำเสนอรูปแบบการเรียนรู้ใหม่เพื่อเพิ่มความเข้าใจถึงระบอบการเมืองและการปกครองของประเทศไทยโดยผ่านรูปแบบอาคารพักอาศัยรวม ที่เรียกว่า โรงแรม จึงเป็นที่มาของโครงการโรงแรมเพื่อการศึกษาประชาธิปไตย

ในปัจจุบันพัทยามีขีดความสามารถในการรองรับการจัดงานในกลุ่มไมซ์ที่เติบโตอย่างมาก และจาก นโยบาย EEC ที่ส่งผลให้มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมไปพร้อมกับการสนับสนุนจากแผนการพัฒนาของ รัฐบาลโดยถือเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรมไมซ์ส่งผลให้มีเพิ่มขึ้นของจำนวนการจัดงาน และนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ทำให้ประสบปัญหาการขาดแคลนสถานที่จัดงานประเภทโรงแรมธุรกิจระดับ 5 ดาวอย่างมาก และอาจต้องเผชิญกับความไม่เพียงพอของสถานที่พักแรมของผู้เข้าร่วมประชุมรวมไปถึงสถานที่ในการจัดประชุมในระดับมาตรฐานสากลดังนั้นจึงเกิดโครงการโรงแรมธุรกิจ เดอะ เกรนด์ บีช พัทยา เพื่อเป็นสถานที่จัดประชุม และนิทรรศการสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ ตัวโครงการมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 29,808 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 6 ส่วน คือ 1.ส่วนพักอาศัย และส่วนห้องประชุมเป็นพื้นที่ขายของโครงการ สัดส่วน 55% 2.ส่วนจอดรถ สัดส่วน 10% สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สปา และของอบไอน้ำ เป็นต้น สัดส่วน 15% และส่วนเซอร์วิส และงานระบบต่างๆ อีก 20% ดังนั้นราคาประมาณก่อสร้างจะอยู่ที่ 888,578,500 บาท “โรงแรมธุรกิจ เดอะ แกรนด์ บีช พัทยา” เป็นโรงแรมธุรกิจที่มุ่งเน้นกิจกรรมเพื่อนักท่องเที่ยวไมซ์

งานวิจัยนี้มุ่งจัดทำโครงการออกแบบโรงเรียนเตรียมอนุบาลที่ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการของเด็กวัยเตาะแตะผ่านการเล่นตามแนวคิดการเรียนรู้แบบวอลดอร์ฟ โดยมุ่งเน้นส่งเสริมพัฒนาการให้เป็นไปตามธรรมชาติของช่วงวัยและกระตุ้นพัฒนาการให้ครบทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย ด้านสติปัญญา ด้านอารมณ์และสังคม โดยการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบวอลดอร์ฟและธรรมชาติเป็นสื่อในการส่งเสริมให้เด็กพัฒนาการการเรียนรู้และเพิ่มพูนทักษะในกระบวนการทางความคิด การลงมือทำ การตัดสินใจและเนื่องจากสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาตินั้นมีผลโดยตรงต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กรวมถึงพื้นที่กิจกรรมการเรียนรู้และการออกแบบพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้นั้นจึงมีความสัมพันธ์กับการส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการในทุกๆด้านของเด็ก ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการวิจัยนี้ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา 3 ประการหลักได้แก่ 1.) เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการที่ไม่สมวัยของเด็กวัยเตาะแตะ 2.) เพื่อศึกษากิจกรรมการเรียนรู้และลักษณะทางกายภาพที่ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการของเด็กให้มีพัฒนาการที่สมวัยผ่านการเรียนรู้จากการเล่นตามแนวคิดแบบวอลดอร์ฟ 3.) เพื่อศึกษากระบวนการออกแบบและออกแบบพื้นที่สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ที่ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการของเด็กให้มีพัฒนาการที่สมวัย โดยจากการศึกษาลักษณะกิจกรรมและพื้นที่กิจกรรมที่เหมาะสมต่อการส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการของเด็กวัยเตาะแตะตามแนวคิดการเรียนรู้แบบวอลดอร์ฟรวมไปถึงลักษณะทางกายภาพที่เหมาะสม ต่อการเป็นพื้นที่ตั้งโครงการพร้อมไปกับการเก็บข้อมูลโรงเรียนวอลดอร์ฟในประเทศไทยและได้นำไปสู่ผลการวิจัยเบื้องต้นว่า กิจกรรมที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กตามแนวคิดแบบวอลดอร์ฟนั้นประกอบไปด้วยทั้งหมด 7 กิจกรรมหลักที่จะเกิดขึ้นใน 1 วันของการเรียนรู้ในโรงเรียนแบบวอลดอร์ฟซึ่งประกอบไปด้วย 1.) การเล่นสร้างสรรค์/กิจกรรมอิสระ 2.) กิจกรรมวงกลม 3.) กิจกรรมกลางแจ้ง 4.) กิจกรรมนิทาน 5.) กิจกรรมศิลปะ 6.) กิจกรรมเคลื่อนไหว 7.) กิจกรรมหลัก(ปฏิบัติ) และหลักการเลือกที่ตั้งโครงการที่เหมาะสมสำหรับโครงการนั้นควรตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ในย่านชุมชนที่อยู่อาศัย มีความสะดวกในการเข้าถึง(จากถนนสายหลัก) มีสภาพแวดล้อมที่ไม่แออัด ปลอดโปร่งและมีพื้นที่กว้างและบริเวณโดยรอบเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย จากการศึกษาจึงกำหนดที่ตั้งโครงการอยู่ที่ ถ. ชาตะผดุง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ส่วนการออกแบบพื้นที่ภายในโรงเรียนนั้นกำหนดให้พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดของโครงการ 6,797 ตารางเมตร โดยมุ่งเน้นให้เกิดพื้นที่เชื่อมต่อกิจกรรมภายในอาคารกับธรรมชาติภายนอก

ช่วงปฐมวัย คือช่วงอายุ 0 – ก่อน 6 ปีบริบูรณ์ ถือเป็นช่วงวัยแห่งการเจริญเติบโตที่สำคัญที่สุดของชีวิต โดยเฉพาะในช่วงอายุ 3-5 ปีหรือวัยอนุบาล1-3 เป็นช่วงที่เรียนรู้สิ่งต่างๆได้ดีรวมถึงภาวะทางร่างกายที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นกว่าช่วงแรก ส่งผลให้พัฒนาการทุก ๆ ด้านทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา สามารถเจริญเติบโตและพัฒนาได้มากที่สุดในช่วงดังกล่าว อันจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาในช่วงวัยอื่นๆของชีวิตต่อไป แต่ในสังคมยุคปัจจุบันที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองใช้เวลาหมดไปกับการหารายได้เพื่อสร้างรากฐานครอบครัวให้มั่นคง ทำให้หลายครอบครัวต้องประสบปัญหาการขาดความอบอุ่นในครอบครัว รวมถึงปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม 90% ที่ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กโดยไม่รู้ตัว โครงการโรงเรียนอนุบาลทางเลือกภายใต้การสร้างสมดุลของจิตมนุษย์ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นในพัฒนาการของเด็กวัยอนุบาลด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา เป็นการสอนแบบโรงเรียนทางเลือกตามแนวคิดของวอลดอร์ฟ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเด็กอนุบาลที่มีพัฒนาการไม่สมวัยและเด็กที่มีความต้องการพัฒนาการในทุกด้าน ซึ่งแนวทางการเรียนการสอนแบบวอลดอร์ฟนั้น มีทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กเล็กให้สมวัยตามวิถีธรรมชาติของเด็กหรือตามหลักมนุษย์ปรัชญาของการสร้างสมดุลของจิตมนุษย์ โดยมีกระบวนการออกแบบที่เอื้อต่อการเรียนเรียนรู้ของเด็กวัยอนุบาลตามแนวทางของวอลดอร์ฟและความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยมีกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายที่จะเน้นการใช้งานที่สะดวกสบายและการออกแบบพื้นที่เล่นของเด็กเป็นหลัก เพื่อการเรียนรู้ให้เกิดผลสูงสุดของเด็กอนุบาล โดยโครงการโรงเรียนอนุบาลทางเลือกภายใต้การสร้างสมดุลของจิตมนุษย์ตั้งอยู่บริเวณถนนอัสสัมชัญ ซอยสุขสวัสดิ์ แขวงบางไผ่ เขตบางแค จังหวัดกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 10,900 ตารางเมตร หรือพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา และมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 6,713 ตารางเมตร โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 ส่วน ประกอบไปด้วย พื้นที่ใช้สอยส่วนเรียนรู้ 2,320 ตารางเมตร (50%) พื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง 1,838 ตารางเมตร (25%) พื้นที่ใช้สอยส่วนบริหาร 388 ตารางเมตร (15%) พื้นที่งานระบบ 168 ตารางเมตร (5%) ส่วนสนับสนุน 450 ตารางเมตร (5%)

การพัฒนาการของเด็กที่สำคัญจะอยู่ในช่วงระยะ 6 ปีแรก จากทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง กล่าวว่า พัฒนาการและประสบการณ์ในช่วงแรกของชีวิตจะมีผลต่อการกำหนดโครงสร้างการพัฒนาทางสมอง ของเด็กโดยทางดินประสาทสัมผัส (sensory pathway) ทั้งด้านการมองเห็นและการได้ยินจะได้รับการ พัฒนาเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาและการเรียนรู้ ซึ่งจะมีการเจริญเติบโต สูงสุดในช่วงปีแรกของชีวิต และเป็นรากฐานสำหรับการเรียนรู้ พฤติกรรม และสุขภาพในอนาคต โรงเรียนทางเลือกเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ผ่านวิธีการเล่น เป็นโครงการที่มุ้งเน้นให้เด็กช่วงปฐมวัย ได้เรียนรู้การพัฒนาการด้านต่าง ๆ ผ่านกระบวนการเล่นภายในโครงการโดยมีหลักสูตรการสอนแบบ มอนเตสซอรี่ควบคู่ไปกับหลักสูตร Early Years Foundation Stage (EYFS) ประกอบด้วยหน่วยต่าง ๆ ที่รวมหลายวิชาในหัวเรื่องเดียวกันออกแบบขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการเรียน ในยุคที่คนเจน Y กลายมาเป็นพ่อแม่ การเลือกโรงเรียนอนุบาลให้ลูกก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย พ่อแม่รุ่น Baby Boomer ก็ อาจจะนิยมโรงเรียนเน้นวิชาการ ด้วยหวังจะให้ลูกเข้าโรงเรียนสาธิตฯ พ่อแม่เจน X ก็จะนิยมโรงเรียน นานาชาติ โรงเรียนสองภาษา สามภาษา แต่ในปัจจุบันพ่อแม่ยุคใหม่จำนวนมาก ที่หันมาให้ความสำคัญ กับการพัฒนาศักยภาพ IQ EQ ของลูก ไปพร้อมกับสุขภาพและความสุข มากกว่าจะมุ่งเน้นวิชาการ ความรู้อย่างเดียว "โรงเรียนทางเลือก" จึงเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ปกครอง เนื่องด้วยเป็น โรงเรียน ที่มีแนวการเรียนการสอนต่างจากโรงเรียนหรือการศึกษากระแสหลัก โดยจะมีการปรับแนวการสอนมา เป็นลักษณะบูรณาการ โดยให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เด็กจะเรียนรู้จากนอกห้องเรียน จากการลงมือ ปฏิบัติ ซึ่งโรงเรียนทางเลือกที่มีในปัจจุบัน แต่ละแห่งก็มีปรัชญาและแนวทางแตกต่างกัน โดยโรงเรียนทางเลือกเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ผ่านวิธีการเล่น ตั้งอยู่ที่ ตำบล ตลาดใหญ่ อำเภอ เมืองภูเก็ต จังหวัด ภูเก็ต มีขนาดพื้นที่อยู่ที่ 10,646.51 ตารางเมตร โดยขนาดพื้นที่ภายในโครงการอยู่ที่ 7,720 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 6 กิจกรรมด้วยกัน คือ พื้นที่สำหรับพัฒนาการทางร่างกาย พื้นที่ สำหรับพัฒนาทางกล้ามเนื้อเล็ก พื้นที่สำหรับพัฒนาการทางการพูด พื้นที่สำหรับพัฒนาการทางด้าน สติปัญญา พื้นที่พัฒนาการทางด้านสังคม และพื้นที่สำหรับกิจกรรมรองภายในโครงการ

แผนพัฒนากีฬาแห่งชาติฉบับที่ 6 พ.ศ. 2560 – 2564 มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาไทย แต่ยังไม่สามารถพัฒนานักกีฬาไทยให้ประสบความสำเร็จในมหกรรมการแข่งขันในระดับนานาชาติ การส่งเสริมนักกีฬาอาชีพเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาไทย นักกีฬาที่ถูกฝึกซ้อมให้เป็นนักกีฬาอาชีพตั้งแต่ระดับเยาวชน มีโอกาสในการพัฒนาสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพระดับนานาชาติได้ จึงก่อให้เกิดโครงการโรงเรียนกีฬาอาชีพนานาชาติ ที่เป็นสถานที่ที่รองรับการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนานาชาติ ให้กับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 และจัดการเรียนการสอนด้านกีฬาในภาคทฤษฎีและปฏิบัติให้กับนักเรียนที่มีความสนใจทางด้านกีฬาให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศ สามารถต่อยอดไปเป็นนักกีฬาอาชีพที่มีทักษะด้านวิชาชีพของนักกีฬาได้ ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ความสามารถ ไปต่อยอดในการเป็นนักกีฬาอาชีพที่มีคุณภาพ สามารถเข้ารับการแข่งขันกีฬาในเวทีระดับสากลได้ โครงการโรงเรียนกีฬาอาชีพมีวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือศึกษาการออกแบบองค์ประกอบของโครงการประเภทสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้งานเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ศึกษาแนวคิดและรูปแบบการออกแบบโครงสร้างช่วงพาดกว้างของสนามกีฬา และศึกษาการออกแบบสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมบรรยากาศให้เกิดแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา การศึกษาเริ่มต้นจากการศึกษาผู้ใช้งาน ศึกษาที่ตั้งโครงการ ศึกษากรณีศึกษาที่ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีในการเรียนรู้ กรณีศึกษาที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบโครงสร้างช่วงพาดกว้าง และศึกษากรณีศึกษาที่มีบรรยากาศส่งเสริมการฝึกซ้อมกีฬา รวมถึงการศึกษาทฤษฎีการจัดห้องเรียนให้สอดคล้องกับรูปแบบการเรียนการสอนแบบ Active Learning ศึกษาการออกแบบโครงสร้างช่วงพาดกว้างที่สามารถนำแสงธรรมชาติเข้าสู่โครงการได้ จากนั้นจึงได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการออกแบบ โดยมีแนวความคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมให้มีบรรยากาศที่ดีในการเรียนรู้ และมีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมบรรยากาศในการฝึกซ้อมกีฬา โดยการออกแบบอาคารเรียนให้มีลักษณะล้อม Court และได้ทำการออกแบบบริเวณ Courtyard และบริเวณพื้นที่ว่างระหว่างอาคารเรียนกับอาคารหอประชุม ให้เป็นพื้นที่สีเขียว และพื้นที่สำหรับการประกอบกิจกรรมให้กับผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานได้เกิดปฏิสัมพันธ์กันระหว่างการใช้งาน และผู้ใช้งานยังสามารถเกิดการเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวได้ ส่วนการใช้งานสนามกีฬา ได้ทำการเลือกรูปแบบหลังคาที่สามารถนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในอาคารได้โดยการใช้ผ้าใบมาเป็นวัสดุมุง เพื่อต้องการให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคาร รวมถึงการวางผังอาคารให้มีลักษณะโอบล้อมสนามฟุตบอลกลางไว้ เพื่อให้ผู้ใช้งานในอาคารสามารถเกิดปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานที่อยู่บริเวณสนามกีฬา

บทความการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาผู้พิการต่อยอดไปสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ ซึ่งจากการศึกษาได้พบว่า อัตราส่วนของโรงเรียนคนพิการกับจำนวนผู้พิการในประเทศไทยนั้นไม่สอดคล้องกัน และยังไม่มีโรงเรียนกีฬาสำหรับผู้พิการ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาโดยกรมพลศึกษามีแนวทางการพัฒนาบุคลากรตามกรอบแนวความคิดของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กำหนดกรอบแนวคิดหลัก กล่าวคือ การออกกำลังกายและเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพเป็นวิธีทีมีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คนพิการได้เพิ่มประสบการณ์ชีวิตด้านสังคม รวมทั้งการเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย และสภาพจิตใจให้ดียิ่งขึ้น

เทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทยมีความก้าวหน้าและมีศักยภาพต่อการใช้นำไปใช้แสดงผลงานศิลปะดิจิทัล แต่ในปัจจุบัน การแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลมักจะเป็นในรูปแบบของนิทรรศการชั่วคราว ยังขาดพื้นที่ในลักษณะถาวรและเหมาะสมต่อการแสดงผลงาน สำหรับศิลปะการแสดง ยังคงขาดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงขาดพื้นที่ที่ตั้งที่เหมาะสมและมีศักยภาพสำหรับการโครงการประเภทนี้ นอกจากนี้รูปแบบการแสดงที่มีการนำศิลปะดิจิทัลมาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงยังไม่เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากนัก โครงการ “โรงละครนิรมิตมายา” จึงเป็นสถานที่สำหรับการเผยแพร่ศิลปะไทยและศิลปะสากลในรูปแบบการแสดงและนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ภายในโครงการ “โรงละครนิรมิตมายา” ประกอบไปด้วย พื้นที่ต้อนรับ,พื้นที่โรงมหรสพ,พื้นที่จัดนิทรรศการศิลปะดิจิทัล,พื้นที่เรียนรู้และทดลองปฏิบัติ,พื้นที่สำนักงาน และพื้นที่สำหรับงานบริการและงานระบบ โดยมีแนวความคิดในการออกแบบอาคาร คือ “การสร้างภาพลวงตาเพื่อให้เกิดการรับรู้ในรูปแบบใหม่” โดยนำเทคนิคการสร้างภาพลวงตาในงานสถาปัตยกรรม ได้แก่ เทคนิคมุมมองย้อนกลับ,เทคนิคการเรียงชั้น,เทคนิคการใช้ลวดลาย,เทคนิคการใช้แสงและเงา และเทคนิคการสร้างพื่นที่ว่างที่ไม่มีขอบเขต มาใช้ในการออกแบบพื้นที่ภายในโครงการ และนำเทคนิคการสร้างภาพลวงตามาผนวกกับแรงบันดาลใจจาก “คลื่นน้ำ” พัฒนาและออกแบบรูปทรงอาคารให้เกิดการรับรู้ที่น่าสนใจยิ่งขึ้น โครงการ “โรงละครนิรมิตมายา” นอกจากจะเป็นสถานที่เผยแพร่ศิลปะดิจิทัลในรูปแบบการแสดงและนิทรรศการโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว ยังเป็นพื้นที่สร้างโอกาสให้ศิลปินได้แสดงผลงานศิลปะโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างความบันเทิงและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ที่สนใจ รวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจในพื้นที่อีกด้วย